ประกาศ เภสัชกรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ฉบับที่ 9/2565 เรื่อง “นโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” |
เภสัชกรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีความจำเป็นต้องรวบรวม จัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้การดำเนินการของสมาคมสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 สมาคมจึงกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ เรียกว่า “ประกาศเภสัชกรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ 9/2565 เรื่อง นโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”
ข้อ 2 ประกาศนี้ใช้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ 3 ในประกาศนี้ “สมาคม” หมายความว่า เภสัชกรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ “สมาชิก” หมายความว่า สมาชิกเภสัชกรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ “เจ้าหน้าที่” หมายความว่า เจ้าหน้าที่ของสมาคม “ผู้ติดต่อสมาคม” หมายความรวมถึง บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่สมาชิก ซึ่งขอรับบริการสมาคม รับจ้างจากสมาคม หรือให้การสนับสนุนสมาคม หรือติดต่อสื่อสารกับสมาคม “องค์กรเครือข่ายวิชาชีพ”ตามข้อบังคับเภสัชกรรมสมาคมฯ พ.ศ.2564 หมายความรวมถึง สภาเภสัชกรรม สมาคมวิชาชีพด้านเภสัชกรรม องค์กรที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพเภสัชกรรม
ข้อ 4 แนวนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสมาคม มีดังนี้ (4.1) การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล สมาคมจะรวบรวม จัดเก็บ ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิก เจ้าหน้าที่ ผู้ติดต่อสมาคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินการของสมาคม การปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด การดำเนินการเพื่อประโยชน์ของสมาชิก เจ้าหน้าที่ หรือผู้ติดต่อสมาคม โดยข้อมูลที่จะเก็บรวบรวมประกอบด้วย (ก) ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ชื่อ นามสกุล e-mail หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ หรือสถานที่ทำงาน หรือข้อมูลอื่นใดที่ให้ไว้เพื่อประโยชน์ในการติดต่อ (ข) ข้อมูลยืนยันตัวบุคคล เช่น รูปถ่าย เลขบัตรประชาชน เลขที่ใบประกอบวิชาชีพ วันเดือนปีเกิด สถานะการศึกษา สถาบันการศึกษา (ค) ข้อมูลการประกอบอาชีพหรือการประกอบกิจการ เช่น สาขาการประกอบวิชาชีพหรืออาชีพ สถานะผู้รับอนุญาตขายยาหรือสถานะผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม สถานะของการดำเนินธุรกิจหรือกิจการ (ง) ข้อมูลทางการเงิน เฉพาะกรณีที่ต้องมีการชำระเงิน จ่ายเงิน หรือรับเงิน เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคารและรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง (จ) ข้อมูลการทำธุรกรรมกับสมาคม เช่น การติดต่อ การเยี่ยมชมเว็บไซต์ การรับบริการจากสมาคม (ฉ) การรักษาความปลอดภัย ของสมาคมหรือการดำเนินกิจกรรมของสมาคม (4.2) การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล สมาคมจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพียงเท่าที่จำเป็น ดังนี้ (ก) เพื่อใช้ในการติดต่อ ให้บริการประชาสัมพันธ์ หรือให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ รวมทั้งสำรวจความคิดเห็นของท่าน (ข) เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการ (ค) เพื่อดำเนินการลงทะเบียนสมาชิก (ง) เพื่อดำเนินการลงทะเบียนการประชุมหรือการจัดกิจกรรมของสมาคม (จ) เพื่อชำระเงินค่าลงทะเบียนหรือค่าใช้จ่าย (ฉ) เพื่อตรวจสอบข้อมูลของท่านผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน (ช) เพื่อออกเอกสารและส่งเอกสารต่างๆ เช่น ใบเสร็จรับเงิน (ซ) เพื่อปรับปรุงรูปแบบ เนื้อหา ของการจัดกิจกรรมอบรม การปรับปรุงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน (ฌ) การทำวิจัยภายในองค์กร การปรับปรุงการทำงาน การปรับปรุงการให้บริการ การปรับปรุงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
(4.3) การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล สมาคมจะรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนข้อมูลการใช้งานของท่าน โดยไม่นำไปเปิดเผยแก่บุคคลที่สาม เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจเด็ดขาด ยกเว้น (ก) การเปิดเผยข้อมูลแก่องค์กรเครือข่ายวิชาชีพซึ่งมีมาตรฐานในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด (ข) ได้รับความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้งเป็นรายกรณี (ค) ได้รับการร้องขอเปิดเผยข้อมูลกรณีที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล
(4.4) การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล สมาคมจะมีวิธีการเก็บรักษาข้อมูล ดังนี้ (ก) การจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลที่ต้องการเข้าใช้ ป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต (ข) จัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็น หรือตามกฎหมายหรือเท่าที่ มีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการเก็บข้อมูลนั้นไว้ (ค) มีระบบป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบุคคลภายนอก (ง) ใช้ SSL (ระบบล็อคเข้ารหัส) เมื่อประมวลผลข้อมูล (จ) ใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องข้อมูลจากการสูญหาย การถูกโจรกรรม การใช้งานในทางที่ผิด
ข้อ 6 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อ 7 การร้องเรียน หากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าความเป็นส่วนตัวของท่านถูกละเมิดจากสมาคมหรือกรรมการสมาคม กรุณาติดต่อเลขาธิการเภสัชกรรมสมาคมฯ เพื่อป้องกันข้อมูลความเป็นส่วนตัวผ่านทาง E-mail : [email protected] โทร.0-27121627-8 ทั้งนี้ สมาคมจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับการร้องเรียน หากไม่สามารถดำเนินการได้ภายในเวลาที่กำหนดให้แจ้งความคืบหน้าต่อผู้ร้องเรียนทุก 7 วัน
ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เภสัชกร ธีระ ฉกาจนโรดม นายกเภสัชกรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ช่องการติดต่อ "เภสัชกรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์" |